Bitcoin Standard: เราอาจได้เห็นเร็วกว่าที่คิด

siamstr May 15, 2025

เมื่อพูดถึง Bitcoin Standard หลายคนมักนึกถึงภาพโลกอนาคตที่ทุกคนใช้บิตคอยน์ซื้อกาแฟหรือของใช้ในชีวิตประจำวัน
ภาพแบบนั้นดูเหมือนไกลตัวและเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
หลายคนถึงกับพูดว่า “คงไม่ทันเห็นในช่วงชีวิตนี้หรอก”
แต่ในมุมมองของผม Bitcoin Standard อาจไม่ได้เริ่มต้นจากการที่เราจ่ายบิตคอยน์โดยตรงในร้านค้า
แต่อาจเริ่มจากบางสิ่งที่เงียบกว่า ลึกกว่า และเกิดขึ้นแล้วในขณะนี้
นั่นคือ การล่มสลายทีละน้อยของระบบเฟียตที่เราใช้กันอยู่

ระบบเงินที่อิงกับอำนาจรัฐกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง
รัฐบาลทั่วโลกกำลังจมอยู่ในภาระหนี้ระดับประวัติการณ์
แม้แต่ประเทศมหาอำนาจก็เริ่มแสดงสัญญาณของภาวะเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
อัตราเงินเฟ้อกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่มีท่าทีจะหายไป
ธนาคารที่เคยโอนฟรีเริ่มกลับมาคิดค่าธรรมเนียม
และประชาชนก็เริ่มรู้สึกถึงการเสื่อมศรัทธาในระบบการเงินดั้งเดิม แม้จะยังพูดกันไม่เต็มเสียงก็ตาม

ในขณะเดียวกัน บิตคอยน์เองก็กำลังพัฒนาแบบเงียบ ๆ
เงียบ... แต่ไม่เคยหยุด
โดยเฉพาะในระดับ Layer 2 ที่เริ่มแสดงศักยภาพอย่างจริงจัง
Lightning Network เป็น Layer 2 ที่เปิดใช้งานมาได้ระยะเวลสหนึ่ง และยังคงมีบทบาทสำคัญที่สุดในระบบนิเวศของบิตคอยน์
มันทำให้การชำระเงินเร็วขึ้น มีต้นทุนต่ำ และไม่ต้องบันทึกทุกธุรกรรมลงบล็อกเชน
เครือข่ายนี้กำลังขยายตัวทั้งในแง่ของโหนดและการใช้งานจริงทั่วโลก

ขณะเดียวกัน Layer 2 ทางเลือกอื่นอย่าง Ark Protocol ก็กำลังพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ด้านความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์ใช้งานที่ง่าย
BitVM เปิดแนวทางใหม่ให้บิตคอยน์รองรับ smart contract ได้ในระดับ Turing-complete ซึ่งทำให้เกิดความเป็นไปได้ในกรณีใช้งานอีกมากมาย
และเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่าง Taproot Assets, Cashu และ Fedimint ก็ทำให้การออกโทเคนหรือสกุลเงินที่อิงกับบิตคอยน์เป็นจริงได้บนโครงสร้างของบิตคอยน์เอง

เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ใช่การเติบโตแบบปาฏิหาริย์
แต่มันคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
และนั่นคือเหตุผลที่มันจะ “อยู่รอด” ได้ในระยะยาว
เมื่อฐานของความน่าเชื่อถือไม่ใช่บริษัท รัฐบาล หรือทุน
แต่คือสิ่งที่ตรวจสอบได้และเปลี่ยนกฎไม่ได้

แน่นอนว่าบิตคอยน์ต้องแข่งขันกับ stable coin, เงินดิจิทัลของรัฐ และ cryptocurrency อื่น ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้มันเหนือกว่านั้นไม่ใช่ฟีเจอร์
หากแต่เป็นความทนทาน และความมั่นคงของกฎที่ไม่มีใครเปลี่ยนได้
ไม่มีทีมพัฒนา ไม่มีบริษัท ไม่มีประตูปิด หรือการยึดบัญชี
มันยืนอยู่บนคณิตศาสตร์ พลังงาน และเวลา

หลายกรณีใช้งานที่เคยถูกทดลองในโลกคริปโตจะค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาสู่บิตคอยน์
เพราะโครงสร้างของมันแข็งแกร่งกว่า
ไม่ต้องการทีมพัฒนาแกนกลาง
ไม่ต้องพึ่งกลไกเสี่ยงต่อการผูกขาด
และไม่ต้องการ “ความเชื่อใจ” จากใครเลย

Bitcoin Standard ที่ผมพูดถึงจึงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
แต่คือการ “เปลี่ยนฐานของระบบ” ทีละชั้น
ระบบการเงินใหม่ที่อิงอยู่กับบิตคอยน์กำลังเกิดขึ้นแล้ว
มันไม่ใช่โลกที่ทุกคนถือเหรียญบิตคอยน์
แต่มันคือโลกที่คนใช้อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า “สิ่งที่เขาใช้นั้นอิงอยู่กับบิตคอยน์”

ผู้คนอาจใช้เงินดิจิทัลที่สร้างบน Layer 3 หรือ Layer 4
ผ่านแอป ผ่านแพลตฟอร์ม หรือผ่านสกุลเงินใหม่ที่ดูไม่ต่างจากเดิม
แต่เบื้องหลังของระบบจะผูกไว้กับบิตคอยน์

และถ้ามองในเชิงพัฒนาการ บิตคอยน์ก็เหมือนกับอินเทอร์เน็ต
ครั้งหนึ่งอินเทอร์เน็ตก็ถูกมองว่าเข้าใจยาก
ต้องพิมพ์ http ต้องรู้จัก TCP/IP ต้องตั้ง proxy เอง
แต่ปัจจุบันผู้คนใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยไม่รู้ว่าเบื้องหลังมีอะไรเลย
บิตคอยน์กำลังเดินตามเส้นทางเดียวกัน
โปรโตคอลกำลังถอยออกจากสายตา
และวันหนึ่งเราจะ “ใช้มัน” โดยไม่ต้องรู้ว่ามันคืออะไร

หากนับจากช่วงเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตในยุค 1990 จนกลายเป็นโครงสร้างหลักของโลกในสองทศวรรษ
เส้นเวลาของบิตคอยน์ก็กำลังเดินตามรอยเท้าของอินเทอร์เน็ต
และถ้าเราเชื่อว่าวัฏจักรของเทคโนโลยีมีจังหวะของมันเอง
เราก็จะรู้ว่า Bitcoin Standard นั้นไม่ใช่เรื่องของอนาคตไกลโพ้น
แต่มันเกิดขึ้นแล้ว

#siamstr

This post and comments are published on Nostr.

Tags

Cypherpruk

Bitcoiner, Researcher, Beer lover and Coffee addict